ถนนสีม่วง
.
ทิ้งไว้เสียนาน ตั้งใจว่าจะกลับมาเขียน ก็มีเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้ไม่ได้เขียนสักที ว่าไปก็เหมือนแก้ตัว (ก็จริงอย่างที่ว่านั่นแหละ ^^") อย่างไรเสียวันนี้ก็ได้ฤกษ์แล้ว
ว่าด้วยเรื่องราวของเพศที่สามในสิงคโปร์ ขอออกตัวก่อนว่า ฉันมีข้อมูลเรื่องนี้ไม่มากเท่ากับเรื่องสาวๆ ในเมืองพัทยา แต่เห็นว่ามันเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง และมองๆ ว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เลยอยากะจะเขียน ส่วนจะมีใครใคร่จะอ่านไหมนั่น ก็สุดปัญญาจะคาดเดา เอาเป็นว่า เขียนเพื่อสนองความอยากของตัวเองทั้งนั้นแล
นับตั้งแต่มาอยู่พัทยาหลายปีนี้ เรื่องราวของสาวไทยที่ไปหากินไกลถึงแดนลอดช่องก็มีมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ หมดหน้าทัวร์ สาวๆ ก็จะย้ายถิ่นฐานกันประหนึ่งนกที่หนีหนาวมาไทยอย่างไรอย่างนั้น เหมือนกันกับสาวไทยที่ยึดอาชีพนี้เลี้ยงตัว ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน จะพัทยา หรือป่าตอง หรืออ่าวนาง ถึงเวลาหมดหน้าทัวร์มา นกสาวๆ เหล่านี้ก็ต้องหาทางขยับขยาย หาช่องทางทำกิน ตามแต่ภาระที่ตัวมี หลายคนก็ไม่จำเป็นต้องไป ก็อยู่ที่เดิมมันนี่แหละ เพราะมีคนรับเลี้ยง หรือไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก แต่บางคนจะด้วยว่าภาระบังคับเหมือนไฟท์ที่ต้องขึ้นชกแล้ว อย่างไรเสียก็หลีกเลี่ยงยาก ปากเดียวยังพอทน แต่อีกหลายปากที่ต้องพึ่งตนเนี่ยสิ แม่ที่ดี ลูกที่ดี ก็ทนไม่ได้ หาทางทำกินต่อไป ถึงกับต้องไปหาทางขยายแฟรนไชส์ที่บ้านใกล้เรือนเคียงของไทย อย่างสิงคโปร์ เพราะขึ้นชื่อว่า แขกดีกว่า เงินดีกว่า รู้สึกว่าฉันจะนอกเรื่องอีกแล้ว หรือจริงๆ ไม่ได้ถือว่านอกเท่าไหร่หรอก ถือว่าเป็นแขนงหนึ่งของเรื่อง series เมืองพัทยาเสียแล้วกันนะ
อย่างที่บอกว่าอยู่พัทยามาหลายปีดีดัก ก็เห็นทั้งสาวแท้ และสาวเทียม งามงด หรืองามแงะมาก็เยอะ แต่ไม่เค้ย ไม่เคยรู้ว่า บรรดาสาวสีม่วงๆ เหล่านี้จะข้ามถิ่นหากินไกลถึงเมืองลอดช่องกับเขาด้วยเหมือนกัน ยังไม่พอ ยังมีถิ่นทำกินกันเป็นหลักแหล่ง เป็นที่ขึ้นชื่อว่า เป็นถนนสำหรับคนที่มีรสนิยมทางเพศแบบนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว เกือบๆ จะว่าได้ว่า ถนนสายนี้เป็นถนนของชาวสีม่วงอย่างแท้จริง ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหยามเหยียด หรือหมิ่นเพศที่สามในที่นี้เลยแม้แต่นิด เพราะคนที่ฉันสัมผัส และแอบสัมภาษณ์โดยที่เธอไม่รู้ตัวนี้ก็น่ารัก นิสัยใช้ได้ กริยามารยาทก็นุ่มนวล น่ารักดีทีเดียว ไม่เฉพาะคนเดียว แต่หลายๆ คนที่ฉันพบมา ก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นความเรียงที่จะเขียนเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่ฉันได้สัมผัสจากคนที่คลุกคลีกับที่นั่นจริงๆ อยากจะไปสัมผัสด้วยตา ก็จนปัญญา ^^"
ต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า เพศที่สามในที่นี้ จะหมายถึงสาวเทียม ที่ทั้งเฉาะแล้ว หรือทำทั้งตัวแล้ว หรือจะเป็นข้างบนอัพแล้วแต่ข้างล่างยังคงสภาพเดิมอยู่ โดยมากจะแต่งหญิงกันทุกนาง แต่ละคนก็สวยๆ ทั้งนั้น ฉันว่านะกระเทยไทยนี่สวยที่สุดจริงๆ เคยเห็นพวกกระเทยหุ่นไม่ให้แต่ใจรัก อย่างฝรั่งหรือชาวต่างชาติที่มาหลุดโลกแถวนี้แล้วอึ้งไปหลายวิ บางนาง(ไม่ค่อยอยากจะใช้คำว่านางเล้ยยยย) หุ่นนี่น้องๆ คนเหล็กอาร์โนลด์ ท่านผู้ว่าดีๆ นี่เอง แต่โทษทีเถิ้ดดด แม่คุณ ล่อใส่กระโปรงสีเหลืองอ่อน เสื้อสายเดี่ยวสีฟ้า อวดโฉมเนื้อหนังที่ปานประหนึ่งจะไปประกวดชายงาม หุ่นราวกับยักษ์ปักหลั่นแบบนั้น แต่มองไปนานๆ ก็คิดๆ เหมือนกันว่า เออ เขารักของเขาจริงๆ ถึงสภาพภายนอกจะไม่อำนวย แต่ความมั่นใจนี่เต็มร้อยจริงๆ เอากับแม่คุณสิ
ส่วนกระเทยไทยรึ อย่างน้องปอยนั่นประไร คนอะไร้ เกิดมาผิดเพศจริงๆ สวย กริยา ท่าทาง นุ่มนิ่มเสียจนผู้หญิงแบบฉันอาย อยากกลับไปเกิดใหม่เสียบ่อยเลย ดีกว่าน้องปอยก็ตรงมีมดลูกแค่นั้นเอง ^^" สาวๆแถวนี้ก็เหมือนกัน บางนางก็สวย บางนางก็สลด แต่เมื่อมาอยู่แถวนี้แล้ว อาชีพสำหรับสาวประเภทสองก็มีไม่มากสักเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่เป็นนางโชว์ ก็ไม่พ้นต้องขายบริการอย่างที่กำลังจะบอกนี่แหละ (อารัมภบทมาตั้งนาน ยังไม่เล่าอีกเรอะ - -" )
เอาเป็นว่า ถิ่นที่เป็นที่นิยมของสาวประเภทสอง และเกย์สาวทั้งหลายในสิงคโปร์นั้น มีชื่อว่า เกย์ลั้ง (ฉันไม่รู้ว่าฉันเขียนชื่อถนนถูกหรือเปล่า เพราะเขียนตามคำบอกเล่าของแหล่งข้อมูลฉัน) ถนนสายนี้ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งสำหรับผู้นิยมสาวประเภทนี้เท่านั้น สาวๆ แท้อย่าได้หลงเข้าไปเชียว มีสิทธิงุนงงและเจ็บตัวกลับมาจริงๆ ด้วย เพราะนอกจากจะมีแต่สาวประเภทสองแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าดุอีกต่างหาก ห้ามหากินข้ามถิ่น เขตใครก็เขตใคร เพราะที่ถนนเส้นนี้ จะแบ่งเป็นโซนๆ ทำการโซนนิ่งไป ว่า ตรงมุมนี้เป็นของ สาวจีน ถัดมาหน่อย เป็นสาวสิงคโปร์ ถัดมาอีกสักนิด เป็นสาวชาติอื่นว่ากันไป ห้ามล้ำเขตซึ่งกันและกัน แต่ละโซนก็จะมีเจ๊ใหญ่คอยคุม ถ้าเข้าถูกทางก็จะสบายไป แต่ถ้าเข้าไม่ถูกทาง ก็ซวยไปตามระเบียบ
ฉันถามแหล่งข้อมูลฉันว่า แล้วพวกที่มาเที่ยวชอบแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง ของเทียมที่เหมือนของแท้ กับของเทียมที่ครึ่งๆ กลางๆ ได้รับคำตอบมาว่า แล้วแต่รสนิยม บางคนเดินดุ่มเข้ามา ตกลงราคาเสร็จ จูงมือเข้าห้องที่เรียงรายกันตามถนนนั้นแล้ว กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เห็นว่าไม่มีเข็มเหมือนกัน พี่แกหมดอารมณ์เอาดื้อๆ แล้วมีบอกด้วยว่า ไม่มีแล้วทำไมไม่บอก บางคนบอกว่า มีเหมือนกันจะให้อารมณ์มากกว่า ฉันว่า ฉันอย่าเขียนตรงจุดนี้มากไปกว่านี้เลย ยังไม่อยากจะเปลี่ยน theme blog ของฉันเป็น erotic blog ตอนนี้หรอกนะ
สาวๆ ที่อยู่ที่นั่น วันๆ รับแขกไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบ ยิ่งได้รอบมากยิ่งหมายถึงได้เงินมากขึ้น ฉันเคยถามเรื่องการจ่ายเงิน บอกว่า เมื่อตกลงราคา ลากเอ้ย จูงกันเข้าห้องแล้ว ต้องรับเงินก่อน ไม่งั้นไม่ยอม เพราะเคยมีปัญหากันอยู่บ่อยๆ สำหรับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นต้องเงินมาก่อนเสียวทีหลัง ว่ากันตามนั้นไป จริงๆ ที่ทำมาหากินของสาวๆ ประเภทสองไม่ใช่มีแต่ที่นี่ที่เดียว แต่ยังรวมไปถึงย่าน Orchard แหล่งชอปปิ้งขึ้นชื่อนั้นด้วย เพราะจะมีแหล่งเที่ยวกลางคืนมากมาย แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากสาวๆ ที่ต้องการเงินเหล่านี้มากนัก เพราะเธอบอกว่า เวลาไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์แถวนั้น ต้องมีแต่นางฟ้า จะไปก็ต้องเสียเงินค่าดื่ม ค่าแต่งตัว แล้วกว่าจะสีแขกได้ ก็ลำบากลำบน โชคดีได้แขกกระเป๋าหนักก็ดีไป แต่โชคไม่ดี ก็หาแขกไม่ได้เสียเงินฟรีก็มีบ่อยไป เพราะฉะนั้นสู้ยืนอยู่ตามเสา เอ้ย ตามถนนเกย์ลั้งนี่แหละดีแล้ว เพราะอย่างไรเสียก็ขายได้แน่ๆ ในเมื่อหนุ่มๆ หรือแก่บ้างกลัดมันต่างก็พร้อมจะมาปลดเปลื้องอารมณ์ของตัวอยู่แล้ว เป็นการรับประกันว่า อย่างไรเสียคืนนี้ก็ไม่มีขาดรายได้แน่นอน
คิดๆ ตามเขาไปก็จริงนะ แต่อาจจะต้องทนรับแขกที่แย่หน่อย หรืออาจจะร้ายกว่านั้นก็มี เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เลือกยากสำหรับเธอๆ เหล่านี้ แต่จะอย่างไรเสีย เธอๆ เหล่านี้ก็คน หลายคนที่น่ารักก็มี ที่ดีก็มาก แต่ชีวิตก็มีทางเดินที่ต่างกัน ถือเสียว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นสีสรรให้กับชีวิตคุณๆ ก็แล้วกันนะคะ
.
Thursday, January 19, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
4 comments:
มาอ่านแล้ว
สิ่งหนึ่งที่คิดขึ้นมาก็คือ ไม่ว่าใครก็ต้องการได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและคนที่อยู่ข้างหลังกันทั้งนั้น
ชีวิตเราต้องดิ้นรนกันทั้งนั้น
แต่ก็เพราะเรามีวิธีการมองโลกต่างกัน สิ่งที่เจออาจทำให้คงหนึ่งดูว่าโลกหมองหม่นแล้วร่ำไห้ ขณะที่อีกคนยังเห็นความสดสวยและยิ้มสู้ก็ได้
ก็ขอให้เราได้เป็นคนที่ยิ้มและหัวเราะ เมื่อต้องเจอกับปัญหา จนหาทางแก้-หาทางออกได้
มากกว่าจะต้องเป็นคนที่ร้องไห้น้ำตารินก็แล้วกัน
(พูดอะไรกัน -- ไม่ค่อยเกี่ยวเลยเนอะ)
เขียนได้ดี
แต่ตอนต้นอารัมภบทยาวไปหน่อย (เมื่อเทียบกับส่วนเนื้อหา) ส่วนที่อยากรู้คือ ภาระค่าใช้จ่าย ของคนเหล่านี้ โอกาสโดนจับ ฯลฯ (เผื่อจะเอามาทำวิจัย เรื่องเศรษฐศาสตร์โคมแดง ^^")
มีงานเขียนน่าสนใจเล่มนึง เรื่องคนไร้บ้าน เป็นงานวิจัยที่ใช้วิธีการ สังเกตแบบมีส่วนร่วม ชอบมาก เป็นชีวิตของคนด้อยโอกาสจริงๆ อ่านแล้วจะรู้ว่า การที่คนเหล่านี้จะปีนข้ามกำแพงแห่งชนชั้นนั้น มันไม่ได้ง่ายดายเหมือนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เลย
ผมอยากติงพวก นักประท้วง NGO นักวิชาการหอคอย ก็เพราะแบบนี้แหละ เฮ้อ เบื่อชะมัด
ถ้าสนใจวิีธีคิดแบบนี้ แนะนำให้ไปเรียนต่อสาขามานุษยวิทยานะ ^^
หุหุ
ป. ป้า แวะมาอ่านจ้ะ ไปอยู่สิงคโปร์ตั้งนาน ไม่ยักกะทราบเรื่องเกย์ลั้ง ใครไปทำผิดที่สิงคโปร์นี่น่ากลัวนะ ซี้ซั้วต่าไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะซวยมากๆถึงมากที่สุด กฏหมายเรื่องรักร่วมเพศที่นั่นรุนแรงมากๆ เป็นอะไรที่ต้องห้าม!!
ขอบคุณที่เอามาเล่าให้ฟังครับ
Post a Comment