Wednesday, July 14, 2004

อยู่คนเดียว มันจะตายเรอะ

จั่วหัวด้วยความหงุดหงิดใจ กับอะไรหลายๆ อย่าง ของใครบางคน

เฮ้อ ขอถอนใจสักทีนะ นึกทบทวนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ถึงแม้จะไม่ได้เกิดกับตัวเองโดยตรง แต่ก็เกี่ยวข้องกับคนที่ฉันสนิทค่อนข้างมาก ฉันมักจะเป็นคนที่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรๆ ของคนๆ นี้อยู่เสมอ ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะรับฟัง กลับเต็มใจฟังเขา อยากรับรู้เรื่องราวของแกเสมอ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้นคราวนี้ ฉันหงุดหงิด ฉันเห็นใจเขานะ แต่ฉันก็ได้แต่ข้องใจว่าทำไม ทำไม และสาเหตุมันคืออะไร


ฉันพูดไม่ออกเต็มปากเท่าไหร่ว่า เรื่องราวของแกมันเป็นอย่างไร แต่มันก็อัดแน่นอยู่ในใจฉัน ในฐานะที่ฉนรับรู้เรื่องราวความรักของแกมาโดยตลอด หลายต่อหลายครั้งที่แกพยายามไขว่คว้าหาคนรัก หาคู่แท้ที่จะอยู่กับแกตลอดไป จนคราวนี้ดูจะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สุดของแก ฉันได้แต่เฝ้ามองดูแกด้วยความเป็นห่วง ฉันไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ ฉันบอกแกในสิ่งที่ฉันคิด แต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของตัวแกเอง แกตัดสินใจไปแล้วว่าอะไรเป็นอะไร หรือแกควรทำอะไร พร้อมๆ กัน ฉันพยายามจะทำความเข้าใจว่าทำไม แกถึงปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดูเหมือนแกจะเป็นคนโชคร้ายในเรื่องความรัก กี่ครั้งแล้วไม่รู้ที่แกต้องผิดหวัง เรื่องคราวนี้ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาว่ามันจะจบลงแบบซ้ำรอยเดิมหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ รอยแผลของแกนับวันมันยิ่งบาดลึก มันยิ่งกว้างขึ้น

เอ ฉันชักจะอารัมภบทยาวไปเสียแล้วกระมังเนี่ย เหตุของความขุ่นข้องในใจฉันครานี้ ก็คงจะเป็นเพราะ เมื่อฉันมานั่งคิดทบทวน หาเหตุผลกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ฉันคิดว่า เรื่องราวที่มันเกิดขึ้น เพราะแกไขว่คว้าหาความรักเกินไป แกเหมือนทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่คนเดียว แกคอยจะคิดย้ำว่า คนเราต้องมีคู่ แกเลยดูเหมือนจะหาใครสักคนที่จะรักแก แคร์ และห่วงใย ใครสักคนที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดไปกับแกจนแก่เฒ่า แต่ดูเหมือนยิ่งแกดิ้นรนจะมีคนรักมากเท่าไหร่ สิ่งที่แกได้กลับมามันก็ดูจะทำให้แกเจ็บยิ่งขึ้น ฉันก็นั่งนึก นั่งสงสัยเหมือนกันนะว่า ทำไมคนเรามันจะต้องอยากมีแฟน อยากมีคู่กันขนาดนี้ ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะต่อต้านเรื่องการมีคู่ หรือมีแฟนหรอกนะ เพราะตัวฉันเองก็แอบๆ อยากมีเหมือนกัน เพียงแต่ว่า ฉันไม่ได้กำหนดเงื่อนไขให้กับชีวิตตัวเอง ว่าตายละ ใกล้เลข 3 แล้วต้องมีนะ ไม่งั้นต้องเก็บเงินดาวน์หมู่บ้านคานทองฝังเพชร ฉันก็คิดว่าถ้าไม่มี มันก็ไม่ตายนี่นา ฉันไม่ได้คิดว่า ฉันอายุเท่านี้แล้ว ฉันต้องมีแฟนแล้วนะ มันดูเหมือนกับการบีบบังคับชีวิตเกินไป เกิดมาฉันก็ไม่ได้เกิดมาตัวติดกับใคร แถมถ้าฉันตายไป ก็คงมีแต่ร่างฉันที่ดับดิ้นไป ฉันคงไม่ใจร้าย หรือรักใครมากพอจะไปกอดคอเขาตายไปกับฉันด้วยหรอก

อ้าวลืมไป ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันแค่เพียงเปรียบเทียบในมุมมองของฉันเองเท่านั้นแหละ ฉันเองก็ลืมไปว่า คนเราแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน ฉันเองอาจจะคิดแตกต่างจากคนอื่นๆ ส่วนมากก็เป็นได้

จริง ๆ แล้วฉันเป็นห่วงพี่แกนะ ฉันอยากให้แกอยู่ได้ด้วยตัวแกเอง อยากให้แกรักตัวเอง อยากให้แกมีความสุขกับการใช้ชีวิตของแก ไม่ใช่จะมานั่งกังวลกับเรื่องพวกนี้ เพราะแบบนี้แหละ พอแกมีใคร แกถึงทุ่มเทรักให้เขามากนัก ถ้าเราไม่เริ่มต้นรักตัวเอง ใครจะมารักเราแบบจริงใจล่ะ คนเรานะ รู้ว่า ธรรมชาติสร้างมาให้มีคู่ เพียงแต่ว่า ช่วงที่ยังไม่ถึงเวลาของเรา ทำไมเราไม่มีความสุขกับชีวิตแบบนี้ ทำไมต้องอยากจะมีคนที่รักมากขนาดนั้น เพราะความที่อยากมีคนรัก อยากมีใครดูแลนั่นแหละ ถึงทำให้พี่แกตัองมานั่งเสียใจ เพราะความรัก ความเชื่อใจที่มีให้คนที่แกรักมันมากเกินไป มากเกินกว่าจะมองเห็นถึงความเป็นจริง ถึงความเป็นไปได้ เฮ้อ อีกที





ฉันละอยากจะพูดกับแกต่อหน้าจริงๆ นะ ว่า "อยู่คนเดียวหรือไม่มีแฟนน่ะมันจะตายเรอะ" แต่ทำไงได้ล่ะ ฉันเองก็ไม่อยากไปพูดจาอะไรรุนแรงกับคนกำลังเสียใจ ทำได้แค่ฮึดฮัดงุ่นง่านกับตัวเองนี่แหละ ว่าๆ ไปแล้วชีวิตฉันพักนี้มีแต่เรื่องน่าหงุดหงิดแฮะ เฮ้ออ (อีกสักที รอบสุดท้ายละกันนะ)