Monday, October 03, 2005

ซื่อสัตว์

เปล่า ไม่ได้เขียนผิด หัวข้อของบล็อกวันนี้ ตั้งใจเขียนแบบนี้จริงๆ


"หากซื่อสัตย์แล้วไม่ได้อะไรดี ก็ซื่อสัตว์เสียดีกว่า"


คำพูดนี้ ไม่ใช่ของฉัน หากแต่เป็นของเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทสนมกันมากพอสมควร พอจะเดาออกกันไหม ว่าเหตุใด คำพูดเช่นนี้จึงออกมาจากหญิงสาวคนหนึ่ง ถูกล่ะ ไม่พ้นจากเรื่องความรัก โชคร้ายในรักเพียงครั้ง ดูเหมือนว่าความรักและผู้ชายสำหรับเธอมันจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ไม่มีเหลือดีอยู่สักเท่าไหร่ ความคิดเธอดูเหมือนจะกลายเป็นว่า รักดีๆ ไม่มีอีกแล้ว ....


คืนนี้มีโอกาสทำตัวเป็นฟองน้ำ ซึมซับ รับปรับทุกข์กับเธอผ่านโปรแกรมสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ยอดฮิตที่นิยมใชักันอยู่ทั่วโลกในขณะนี้นั่นแหละ จะว่าไปแล้วฉันกับเธอก็คุยกันออกจะบ่อย เกือบจะทุกวันเห็นจะได้ แต่จะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่คืนนี้.. มีอะไรต่างกันออกไป เธอทักมา พร้อมประโยคที่ว่า "ขอฉันปรึกษาอะไรหน่อยจะได้ไหม"

จากนั้นบทสนทนา ก็เป็นไปตามครรลองของฉันกับเธอ คือ ฉันเป็นฝ่ายรับฟัง และเธอเป็นฝ่ายระบาย จริงๆ ไม่ใช่การปรึกษาหรอก แต่เป็นการรับฟัง อยู่เป็นเพื่อนกัน ในยามที่เธอต้องการใครสักคนที่เธอพอจะพูดคุยในเรื่องบางเรื่องได้


เพื่อนฉันคนนี้ จะว่าไปแล้ว เธอค่อนข้างจะโชคร้ายกับเรื่องรัก เพราะคนที่อาจจะเรียกได้ว่าคนรักของเธอในปัจจุบันนั้น เป็นสามีของคนอื่น เข้าใจกันไม่ผิดหรอก เพื่อนฉันคนนี้ มีตำแหน่งเป็นเมียน้อยไม่ได้รับเชิญของสามีชาวบ้าน ทั้งๆ ที่จริงแล้วเธอไม่ได้อยากจะเป็นเลยสักนิด ตำแหน่งที่เธอไม่เคยต้องการ ตำแหน่งที่เธอได้มาโดยจำใจ ด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตำแหน่งที่ได้มาเพราะการโดนหลอก อายุไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการที่จะวัดได้ว่า คนเราจะโดนหลอกได้หรือไม่ ตราบใดที่ตัวแปรสำคัญคือ ความรัก ตราบใดที่คนเรายังโหยหาความรัก อยากได้ใครสักคนมาเป็นของตน อยากได้ใครสักคนจะมาอยู่ข้างกาย เติมเต็มส่วนที่ตนต้องการ ดังนั้นไม่ว่าอายุจะสักเท่าไหร่ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะโดนหลอก หากคนๆ นั้นต้องการความรักที่ตัวเองไม่เคยได้ครอบครองมากจนลืมนึกถึงตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก

ไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอกกับการจะมีตำแหน่งเมียน้อย แต่เธอเดินไปแล้ว ก้าวไปแล้ว ถึงแม้ตอนนี้อะไรๆ จะยังคลุมเครือ ไม่รู้ว่าเธอยังคงดำรงตำแหน่งนั้นอยู่ไหม กระทั่งตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ เพราะคนที่จะตอบเธอได้นั้นก็คือคนที่อยู่ไกล คนที่ได้ชื่อว่า คนรักของเธอนั่นต่างหาก แต่กระนั้นเอง ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป หากยังไม่สิ้นก็คงต้องดิ้นกันไป อย่างที่เขาว่าไว้ แต่เพื่อนของฉันคนนี้เธอไม่เหมือนเดิม ความคิดเธอ ทัศนคติที่มีต่อโลก และผู้ชายของเธอ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งกับตัวเธอเอง เธอมองว่าตัวเธอไม่ดี ไม่มีค่า กลายเป็นคนมีมลทิน เป็นสินค้ามีตำหนิ คงไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้เธอโดยไม่หวังอะไรตอบแทน ผู้ชายที่เธอพบเห็นในสังคม โดนเธอมอง และตีความเอาว่า ไม่มีผู้ชายที่ไหนที่จะไม่ต้องการอะไรตอบแทนจากผู้หญิง เธอมองไปแล้วว่าไม่มีสิ่งไหนที่ผู้ชายให้แล้วไม่หวังผลตอบแทน เธอกลับมองโลกแบบนั้นไปเสียแล้ว

พอคุยกับเพื่อนคนนี้แล้ว รู้สึกสะทกสะท้อนใจอย่างไรก็บอกไม่ถูก นึกได้แต่ว่า ทำไมหนอถึงมองโลกในแง่ร้ายอะไรได้เพียงนี้ แค่ผู้ชายคนเดียว กลับทำเธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ อาจจะเพราะเธอตั้งความหวังในตัวเขาไว้มากเกินไป ถึงยอมมอบกาย มอบใจ อย่างที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน แต่สิ่งที่เธอได้รับตอบแทนมันดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่เธอหวัง สิ่งที่ตอบแทนเธอมา บางครั้งมีแต่น้ำตา และความอับอาย

จากบทสนทนา มีผู้ชายมาติดพันเธออีกหนึ่งราย แต่รายนี้ก็หาใช่คนตัวเปล่าไม่ พอเธอเล่าให้ฉันฟัง ฉันก็ได้แต่รำพึงในใจ อีกแล้วหรือนี่ จะเป็นเพราะอะไร ชะตา หรือดวงของเธอที่ดึงให้เธอมาอยู่บนเส้นทางสายนี้ ฉันก็ไม่รู้ได้ แต่เธอก็บอกกับฉันว่า เธอไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากให้เขาทะเลาะกับภรรยา เพราะเขาบอกกับเธอเสมอว่า รักแฟนมาก ห่วงแฟนมาก จนให้นึกสงสัยว่า คนรักกันเขาทำกันแบบนี้หรืออย่างไร เธอบอกกับฉันต่อไปว่าเธอยังไม่เคยพบปะหรือเจอหน้า แต่ฝ่ายชายนั้นเพียรโทรหาเกือบจะทุกวัน แล้วยัง online คุยกับเธอทุกวัน เป็นกิจวัตร เธอเล่าต่อไปว่า เมื่อเธอซื่อสัตย์กับคนที่เธอเรียกว่าสามี แล้วไม่ได้ดี เธอก็คงจะเลิกทำ เธอเฝ้าอยู่ในโอวาท คำน้อยก็ไม่มีปริปากบ่น เพราะเธอรู้ตัวว่าอยู่ในสถานะใด แต่สิ่งที่ตอบแทนเธอ ก็อย่างที่ฉันว่า น้ำตาและความเสียใจ


จริงแล้วฉันอยากจะบอกกับเธอเหลือเกินว่า คนดีๆ หรือความจริงใจมันยังมีเหลืออยู่ในโลกนี้ ฉันไม่ใคร่จะสบายใจเท่าไหร่นัก กับการที่ได้รับรู้ว่ามุมมองที่เธอมีต่อผู้ชายมันติดลบลงไปทุกวันแบบนี้ เธอบอกฉันเสมอ ว่าไม่มีผู้ชายคนไหน ทำอะไรให้ผู้หญิงโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และสิ่งที่ผู้ชายมักจะหวังจากผู้หญิงก็ไม่พ้นร่างกาย แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนฉันคนนี้จะไม่คิดอย่างนั้น ดูเธอจะปักใจไปเสียแล้วว่า ผู้ชายก็มีแต่ต้องการของตอบแทนเป็นเรือนกายของผู้หญิง ฉันไม่อยากจะให้เธอมีความคิดอะไรแบบนั้นเลย แต่จนปัญญาไม่รู้จะหาทางไหนช่วยให้เธอมองโลกด้วยความคิดที่ดีขึ้นได้บ้าง ตอนนี้เหมือนโลกเธอเป็นสีดำ อยากให้เธอไว้ใจใครๆ เหมือนอย่างที่เธอเคยเป็น ไม่ใช่มองผู้ชายไม่ต่างอะไรกับสัตว์เพศผู้ที่ต้องการเพียงที่เปลื้องอารมณ์ความใคร่เท่านั้น

ไม่อยากได้ยินคำว่า ซื่ออย่างสัตว์จากเธออีกแล้วจริงๆ ............