กลับมาอีกที เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อสักสองสามวันมานี้เองว่า ฉันทิ้ง blog ของตัวเองให้แมงมุมยึดครองเสียแล้ว ดูสิเล่า หยากไย่ขึ้นเต็มไปหมดแล้ว อนาถตัวเองจริงๆ เหตุที่ห่างหายไปนานมากคงจะเรื่องงาน (ดูจะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ฉันไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ได้) อืมม แล้วฉันจะอารัมภบทอะไรให้ยืดยาวละเนี่ย งึมๆ งำๆ จริง ๆวันนี้อารมณ์ดี หัวใจมันดี๊ด๊ายังไงพิกล เหมือนมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นมา แต่อันนี้ช่างมัน ขอโยนอารมณ์ดีๆ ทิ้งไปก่อนดีกว่า เรื่องของสาว ๆเมืองพัทยาที่ฉันติดไว้คราวโน้นนนน แหละนะ
ชีวิตสาวบาร์ที่นี่ก็ใช่ว่าจะสบายนะ ไอ้การยอมเอาพลีกายตัวเองแลกเงินเนี่ย มันใช่เรื่องที่จะทำกันง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ล่ะ (อันนี้ฉันคิดเอาเองนะ เอาตัวเองเป็นมาตรฐาน) แรกเมื่อฉันมาอยู่ที่นี่ใหม่ บอกตามตรงเลยคือว่า ฉันรับกับสภาพที่เห็นไม่ได้เท่าไหร่ ฉันจะกลายเป็นคนไว้ตัว ถือตัวอย่างมาก ไม่ค่อยจะโอภาปราศัยกับบรรดาลูกค้าสาวๆ ของฉันเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่หน้าที่การงานของฉันที่นี่มันก็จำเป็นที่จะต้องเอื้อประโยชน์ให้ซึ่งกันและกัน แต่ด้วยความถือตัว หรือทิฐิของฉันนี่แหละ (ฉันคิดว่าใครอื่นคงเป็นอย่างฉันเหมือนกัน) ทำให้เป็นอย่างนั้นในช่วงแรกๆ สักพักพอฉันปรับตัวได้บ้าง ฉันเริ่มจะมองอะไรต่างไป โลกของฉันมันกว้างขึ้นกว่าเดิมบ้าง เลยยอมเปิดใจ พูดคุยกับสาวๆ เหล่านั้นมากขึ้น จนได้เรียนรู้อะไรๆ หลายอย่าง แต่จะเรียกว่ารู้จนหมดคงไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ไปทดลองด้วยตัวเอง แหะๆ
จากการพูดคุย แอบเก็บข้อมูลของหลายๆ คน ฉันพอจะสรุปได้คร่าวๆ ถึงสาเหตุของสาวๆ เหล่านั้นที่ยอมมาทำงานบาร์ หรือให้เรียกอีกทีว่าสาวขายบริการ หรือจะเรียกแบบตรงๆ ไปเลย คงไม่พ้นคำว่าโสเภณี เพราะอย่างที่ฉันว่าข้างบนนั้นว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอกนะ กับการที่จะต้องไปมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ได้รักชอบ แต่หากเพื่อเงิน หลายคนหลากความคิด หลายสาเหตุ หลากเหตุผล ลองมาฟังเหตุผลของสาวๆ แถวนี้กันหน่อยไหม เอาเฉพาะหลัก ๆแล้วกัน ส่วนเรื่องสาเหตุอื่นๆ ที่มีเพิ่มมาขึ้นทุกที ฉันจะว่าอยู่ในตอนท้ายๆ นี่ด้วยเหมือนกัน
** เรื่องเงิน สาเหตุแรกสาเหตุหลัก สาเหตุใหญ่ คงไม่พ้นเรื่องนี้ สาเหตุนี้สาเหตุเดียว เรายังสามารถแยกแยะออกเป็น sub ย่อยต่างๆ อีกหลายประการ อย่างว่า เรื่องเงินเรื่องใหญ่ แต่สาวๆ แถวนี้บอกอกเล็กเรื่องใหญ่ (กว่า)นะ ชักนอกเรื่องแฮะ กลับเข้ามาดูเรื่องสาเหตุนี้ต่อดีกว่า
- มาทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ อันนี้เป็นสาเหตุยอดฮิตของการมาทำงานที่พัทยา (หรืออาจจะเป็นที่อื่นๆ ป่าตองภูเก็ต เกาะพีพี กระบี่ หรือเชียงใหม่ หรือบาร์ญี่ปุ่นแถวพัฒน์พงษ์) หลายต่อหลายคนที่ต้องยอมมาทำงานขายตัวแลกเงิน ก็เพราะหนี้สินที่ทั้งที่ตัวเองเป็นคนก่อ และไม่ใช่คนก่อ โดยมากมักจะเป็นหนี้สินของครอบครัว หลายรายมีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องที่จะโดนยึด ที่บ้านไม่มีเงินใช้หนี้ ฯลฯ สารพัดสารเพ กับปัญหาหนี้สินต่างๆ ที่แต่ละคนจะเจอ แล้วแต่บุญทำกรรมแต่งก็ว่างั้นเหอะ เมื่อมีหนี้ แต่ไม่มีเงินใช้ เวลาใช้เงินก็งวดเข้ามาทุกที ทำอย่างไรดีละ เหลียวซ้าย แลขวา หาที่พึ่งไม่ได้ เงินกู้หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ เอ้ย เงินทุนหมู่บ้านก็ใช่จะได้ง่ายๆ ธกส.หรือ หนี้เก่ายังไม่หมดเลย ทางเลือก (ที่ตอนนั้นคิดว่าเป็นทางเลือกสุดท้าย) ที่พวกเธอเลือก ก็ไม่พ้นขายตัว เพราะจะมีงานที่ไหน ที่สามารถทำเงินจำนวนมากๆ ด้วยระยะเวลาไม่นาน ด้วยเพราะถ้ามาทำงานบาร์แล้ว เงินรายได้ที่จะได้กันเดือนหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นบาท (นี่อย่างต่ำนะ) บางคนเจอแขกจ่ายเงินดีๆ อาจจะได้หลายหมื่น หรือเผื่อฟลุคเจอคนรักจริง เขาแต่งงานด้วย ปลดหนี้ให้ก็มี
- สาเหตุย่อยเรื่องเงินเรื่องที่สอง ไม่มีเงินเลี้ยงลูก ไม่มีเงินดูแลครอบครัว (อันนี้ฉันเองก็สงสัยอยู่ว่าแต่ก่อนมันอยู่กันอย่างไรหว่าถึงอยู่กันได้โดยไม่ต้องใช้เงินมากมาย แต่ก็ช่างเหอะ) บ้างเลิกกับสามี บ้างโดนสามีทิ้ง ไม่มีเงินดูแลลูก ไม่มีเงินส่งเสียให้ครอบครัว ตัวเองก็จำเป็นต้องทิ้งถิ่นฐานมาขายเรือนร่างกินแถวพัทยา หรือแถวอื่นที่ target ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติก็ว่ากันไป ส่วนใหญ่ที่เจอมักจะเป็นสาวที่มาจากภาคอีสานกันทั้งนั้น มีบางคนเคยคุยให้ฉันฟังว่า มีแฟนส่งเงินให้ใช้เดือน 4 หมื่นบาท อยู่สองคน แต่เท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ เพราะต้องเลี้ยงคนทั้งบ้าน ลูกสองคน พ่อแม่ และรวมถึงพี่ชาย (ฟังแล้วฉันรู้สึกประหลาดๆ ยังไงพิกล เลี้ยงลูกที่ยังเล็ก กับพ่อแม่ที่แก่เฒ่าน่ะพอฟัง แต่เลี้ยงพี่ชายด้วยนี่ ฟังแล้วน่าคิดน้อยเมื่อไหร่ล่ะ จริงไหม) ฉันเจอสาวๆ ที่เขามาทำงานที่นี่ด้วยสาเหตุนี้พอสมควร แต่ไม่มากเท่าการหาเงินเพื่อใช้หนี้
- อีกสาเหตุหนึ่งที่ฉันเจอ ทำเอางงๆ ไปเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะมีอย่างนี้ด้วย เป็นสาเหตุเรื่องเงินที่ทำเอาฉันอึ้ง ทึ่ง และเหวอไปนานกว่ากับเหตุผลข้อนี้ เพราะสาวเจ้าคนที่ฉันเจอ บอกฉันว่า "หนูมาหาค่าเทอมพี่ พอได้ค่าเทอมแล้วหนูก็จะกลับไปเรียนต่อ" .........O_o'' ฉันได้โอกาสถามหนูแก ว่าทำไมถึงมาทำงานแบบนี้ ท่าทางยังเด็กอยู่เลย ก็ยายหนูคนนี้ เขาผมยังสั้นเท่าต้นคอ เหมือนเด็กเพิ่งถอดคอซองได้ไม่นาน แล้วมาอยู่แหล่งอโคจรแบบนี้เนี่ยนะ มันใช่ที่เสียที่ไหนเล่า ฉันสอบถามได้ความมาว่า ยังเรียนอยู่ม.ปลาย ในจังหวัดใกล้เคียงกับพัทยานี่แหละ พอปิดเทอมหนูแกก็มาหาค่าเทอม ฉันได้แต่นั่งฟังด้วยตาปริบๆ เสียดายเหลือเกิน เสียดายอนาคตเด็ก หรือฉันควรยินดีที่เด็กสาวคนนี้จะได้มีอนาคตการศึกษาที่ดีกว่าเดิมก็ไม่รู้ ฉันยังเจออีกรายหลาย ที่รักดี ส่งเสียตัวเองเรียนต่อไปด้วย พร้อมๆ กับทำงานแบบนี้ไปด้วย สาวๆ เหล่านี้มักจะบอกกับฉันว่า พวกหนูไม่อยากทำงานแบบนี้ไปจนแก่หรอกพี่ พยายามหาเงินเรียน หาความรู้ใส่ตัว วันหนึ่งจะได้ไม่ต้องมาอยู่ตรงจุดๆ นี้อีกต่อไป ....... ฉันยังอึ้งอยู่ดี อาจจะเพราะพื้นฐานฉันเคยเป็นเรือจ้างกับเขาอยู่พักละมัง เลยอดรู้สึกสะท้อนใจกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
ว่ากันถึงสาเหตุต่อไป ....ประชดชีวิต ประชดความรักที่มีแล้วเคยผิดหวังหรือไม่ได้อย่างใจ ก็ว่ากันไปแล้วแต่เจ้าตัวเขา แต่เท่าที่ฉันเคยคุยเคยถามมา ส่วนใหญ่มักจะประชดความรัก อดีตสามีคนไทย ร้อยละเกือบ 80 มักจะบอกว่า คนไทยนิสัยไม่ดี ขอมีสามีฝรั่งดีกว่า ประมาณว่า ผัวคนไทยมันไม่มี ก็อย่ามีมันเสียเลยจะดีกว่า ถ้าจะมีทั้งทีขอดี ขอรวยกว่าเดิม เป็นต่างชาติไปเลย เป็นซะแบบนี้ ฉันเคยถามเขาเหมือนกันนะ ว่าวิธีประชดแฟนมันมีตั้งร้อยแปด ทำไมต้องเลือกมาขายเนื้อหนังตัวเอง เขาบอกว่า เผื่อจะได้เจอแฟนชาวต่างชาติ มีเงินมีทอง ร่ำรวยเหมือนอย่างคนอื่นๆ บ้าง (อันนี้ค่านิยมตามกัน จะอรรถาธิบายกันต่อไป) บ้างก็บอกว่า เลิกกับสามีก็อายุขนาดนี้แล้ว ความรู้ขนาดนี้จะให้ไปทำงานอะไร ที่จะได้เงินมาดูแลลูกหรือครอบครัว ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่เลือกสาเหตุนี้ จะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานเสียแต่อายุยังน้อย พอมีเหตุต้องเลิกร้างจากสามี ก็มักจะหันเหชีวิตตัวเองมาทำงานกลางคืน กันแบบนี้ บ้างก็ทนความเจ้าชู้เหลือรับของสามีของตัวเองไม่ไหว ก็มักจะคาดหวัง อยากจะมาเจอชาวต่างชาติที่เขาว่ากันนักต่อนักว่า ใจดี รักเดียวใจเดียว ให้เกียรติผู้หญิง สารพัดของอารมณ์อยากได้สามีต่างชาติแหละนะ ผู้หญิงที่มีสาเหตุแบบนี้ ฉันมักจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าการประชดแบบนี้มันไร้เหตุผลสิ้นดี แต่อย่างว่า คนเราเหตุผลต่างกัน ความคิดต่างกัน
อีกหนึ่งสาเหตุ เป็นสาเหตุที่ฉันไม่ใคร่จะชอบใจเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ว่าธุระไม่ใช่ จะไปยุ่งกับเขาก็ใช่ที่ อันนี้จะคล้ายๆ กับการตกเขียวทางภาคเหนือ เพียงแต่ว่าทางโน้นเขาครอบครัวขายมา แต่ทางนี้เต็มใจขายตัวเอง เพราะเห็นบ้านใกล้เรือนเคียง รุ่นพี่ที่เคยมาทำงานแล้วประสบความสำเร็จ เจอคนรักจริงแต่งงานด้วย กลับมาสร้างบ้านสร้างเรือนกันใหญ่โต มีหน้ามีตาในสังคมชนบท เลยเกิดค่านิยมตามๆ กันมาทำงานในพัทยา คนที่บ้านก็พลอยเห็นดีเห็นงามไปด้วย เหมือนไม่ได้นึกเลยว่า กว่าจะได้เจอคนดี ๆ สักคน มันต้องแลกด้วยสิ่งใดของตนบ้าง เห็นแล้วอดนึกถึงบทกลอนที่เคยอ่าน สมัยยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยภูธรของฉันไม่ได้ ฉันจำเนื้อไม่ได้หมด แต่ท่อนสุดท้ายของบทกลอนบทนั้นสิ "เมื่อไหร่หนอจะมีผัวเป็นตัวตน จะมีใครสักคนถือผ้าดีที่แม่ทอ" มันติดอยู่ในใจฉันมาตลอด สาวๆ เหล่านี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรเลย กว่าจะมีชีวิตดีๆ ที่ตนปรารถนา มันไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด น้อยคนนักที่จะเจอคนดีๆ นับแต่แรกที่มาทำงาน แต่คงจะด้วยความทะเยอทะยานอยากที่มีกันอยู่เต็มหัวใจ เลยทำให้สาวๆ หลายคนยอมเลือกวิธีนี้ พี่จูงน้อง เข้ามาทำงานด้วยกัน บางบ้านที่น่าอนาถ ลูกสาวตามแม่ออกมาขายตัว หวังจะมีลูกเขยเป็นคนต่างชาติเหมือนพ่อเลี้ยงตน ฉันไม่เคยเข้าใจกับเรื่องตรงนี้เลย ทำไมหนอ คนเป็นแม่เขาถึงยอมให้ลูกตัวเองมาอยู่ตรงจุดๆ ที่เขาเคยยืน เขาก็รู้ไม่ใช่หรือว่า กว่าจะได้เจอใครสักคนนั้นมันยากนัก กว่าเขาจะมีใครที่รักกัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันไม่เคยเข้าใจเลยจริงๆ .....
ลูกค้าที่ฉันพูดคุยด้วยบ่อยๆ นับตั้งแต่สมัยที่เจ้าหล่อนยังไม่มีคนรับเลี้ยงดูจริงจัง นับแต่สมัยที่เจ้าหล่อนโดนแฟนชาวดัทช์ทิ้งมานั่นแหละ เธอมานั่งร้องไห้คร่ำครวญ จนถึงทุกวันนี้ กระทั่งเวลาทะเลาะกันกับแฟนที่เลี้ยงเธออยู่ในปัจจุบันนี้ ด้วยเงินเดือน 4 หมื่นบาทต่อเดือน ไม่รวมค่าที่ที่กำลังผ่อน คนนี้ฉันก็ไม่เคยเข้าใจอีกเหมือนกัน แต่ฉันคาดได้ว่าเพราะความอยากได้ใคร่มีที่คนเรามันมีแบบไม่สิ้นสุดนี่แหละ วันก่อน ฉันเพิ่งจะรับฟังคำพูดเจ้าหล่อน บ่นน้อยใจสามีตัวเองเหลือเกิน น้อยใจวาสนาที่ตกเป็นเมียน้อย แต่ไม่ได้อะไรเหมือนคนอื่นเขา เพื่อนๆ ของเธอมีบ้านหลังละหลายๆ ล้าน หลายๆ คนมีรถยนต์ เธอบอกว่าเธอไม่มีอะไร ทำไมเพื่อนๆที่มาทำงานพร้อมกัน มีกันหมดแล้ว .... ทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเขาขนาดนั้นน้อ ทำไมต้องอยากมีเหมือนคนอื่นเขา มีแค่ของตัวเรา ไม่พอหรือไร
จริงๆฉันว่า ถ้าคนเรามันมีความพอดี ไม่อยากได้ใคร่มีอะไรมากเกินไป ทุกอย่างมันก็คงจะดูง่ายดายกว่านี้สำหรับชีวิตนะ
Saturday, December 04, 2004
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
มาลงชื่อให้ครับ
:-)
ลค
Post a Comment