วันนี้ ตอนนี้ นาทีนี้ อารมณ์ฉันมันกรุ่นเหลือเกิน กับสิ่งที่เพิ่งได้รู้มา อุณหภูมิความรู้สึกมันพุ่งสูง อยากจะฆ่าใครสักคนเหลือเกิน แทบทนไม่ไหว ใจฉันมันร้อนเหลือเกินตอนนี้ มันแน่น มันแปลบในอก น้ำตาปริ่มๆ อยากจะไหลเต็มทน ทำไมหนอคน ทำไมใจร้าย เหมือนไม่ใช่คนแบบนี้
ฉันเพิ่งจะวางสายจากคนที่บ้าน พ่อของฉัน ฉันได้ข่าวไม่ดีมาเกี่ยวกับคนงานที่คุ้นเคยเห็นหน้ากันมานับแต่ฉันยังเด็ก คนใจร้ายคนนั้น ปลดพวกเขาออก ฉันสงสัยเหลือทน ว่า ศีลธรรมของเขาไปอยู่ไหนหมดหนอ แม่หม้ายสามีตาย เลี้ยงดูลูกคนเดียว เงินเดือนแค่ไม่กี่พัน โดนกระแสราชการซัดเสียจนแทบล้ม ให้คนอื่นออกไม่พอ ซ้ำยังโกงกิน กินเท่าไหร่มันถึงจะพอเล่า จะโกยไปถึงไหนถึงจะพอ ตายไปเอาเงินติดตัวไปสักกระผีกได้ไหม โกงกินไปเท่านั้น สบายใจไหมนั่น แต่เขาทำได้ จุดหมายของฉันวันนี้แค่อยากทราบเรื่องราว ว่าทำไม ถึงต้องปลดคนเก่าแก่เคยทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปีออกได้ลงคอ คนใจคดพรรค์นั้น คนที่เพิ่งจะย้ายมาในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ทำอะไรไว้มากมายเหลือเกิน อยู่ที่ไหนถึงจะพอ อยู่ที่ไหนถึงจะดีเล่า ข่าวร้ายที่ฉันได้รับ มันสะเทือนใจฉัน มันเค้นใจฉันจนแทบจะระเบิดออกมาในตอนนี้ น้ำตาคลอๆ ที่รอจะไหลออกมา ด้วยความแค้นแน่นอก พ่อฉันบอกว่า "เจ้าแดง" หมาที่อาศัยที่ทำงานเก่าฉัน โดนยกให้กับรถที่เขามารับแลกหมากับกาละมัง หรือถังน้ำ .............
ฉันไม่เคยคิดเลย คนหน้าซื่อๆ แบบนั้น จะใจร้ายได้แบบนี้ มันอาจจะเป็นเรื่องที่เห็นกันจนชินตา กับภาพรถบรรทุกหมาอยู่ในกรง ด้านหลังรถยนต์กะบะ ที่แล่นไปตามหมู่บ้าน ตามที่ต่างๆ พร้อมกับเสียงประกาศของคนขับ ที่พร้อมจะรับแลกหมาด้วยกาละมังเพียง 1 หรือ 2 ชิ้น ชีวิตของหมามันมีแค่นั้นหรือ ฉันทำใจไม่ได้กับสิ่งที่รับรู้มา มันแย่เกินคน "นังแดง" เจ้าหมาอาภัพแสนสวย สีขาวปนน้ำตาลแดง จนเป็นสาเหตุที่ได้ชื่อว่า นังแดง ฉันรู้จักกับนังแดง เมื่อหลายปีที่ผ่านมา 5 ปีได้แล้วกระมัง ตอนนั้นฉันยังไม่ห่างบ้านมาไกลแบบนี้ บ้านฉันอยู่ในแถบหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บ้านแต่ละหลังหน้าตาเหมือนกันหมด ไม่ได้ต่างกันเลยสักกระผีกเดียว วันที่ฉันรู้จักนังแดงครั้งแรก เป็นวันที่มันโดนทิ้ง ชีวิตมันน่าสงสารนัก โดนเจ้าของทิ้งแทบทุกคราว ครั้งแรกของนังแดง เจ้าของมันย้ายบ้านไป พร้อมกับทิ้งมันไว้ที่บ้านเดิม ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น นังแดงท้อง ฉันกับแม่ รวมถึงคนอื่นๆ ในครอบครัว ได้แต่มองมันด้วยความสงสารจับใจ เจ้าหมาท้องแก่ วิ่งไปมาในถนนในซอยคอยมองหาเจ้าของ แต่ความหวังมันไม่เคยเป็นจริง ความหวังของมันลอยไปไกลทุกที เจ้าแดงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าที่ผุพังไปตามกาลเวลา มีฉันกับครอบครัวคอยให้ข้าวน้ำ ด้วยความสงสาร อยากจะเอาเข้ามาเลี้ยงในบ้านก็จนกำลัง ด้วยเพราะในบ้านฉันตอนนั้นก็มี 8-9 ตัว เลยได้แต่เลี้ยงมันอยู่นอกบ้านพร้อมหาปลอกคอมาสวม ดูแลมันตามสภาพ จนวันที่นังแดงคลอดลูก แต่เป็นวันที่ฝนตก ฉันกับแม่เป็นห่วงมันเหลือใจ ห่วงว่าแม่กับลูกตัวน้อยๆ จะหลบฝนอย่างไร เจ้าตัวน้อยๆ พวกนั้นจะรอดกันหรือไม่ ฉันยอมปีนเข้าบ้านหลังนั้น บ้านที่ไร้คนอยู่ นอกจากหมา ยอมฝ่าทั้งหญ้ารก นาทีนั้น ฉันไม่กลัวอะไรแล้ว ทั้งที่ปกติฉันไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเกรงจะมีงู หรือตะขาบ ฉันพบนังแดงนอนคลอดลูก อยู่ริมๆ บ้าน ฝนกำลังสาดซัดมันอย่างเต็มที่ มันคงไม่รู้จะหลบไปอยู่ไหน ฉันหาเศษสังกะสีแถวนั้นทำเป็นเพิงให้มัน น่าดีใจที่ลูกๆ ของมันอ้วนท้วนทุกตัว เจ้าหมาตัวน้อยๆ ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยว่าชีวิตแม่มันต้องอยู่อย่างลำบากแค่ไหน
นับจากวันนั้น ฉันคอยดูแลมัน จนอาจจะมากกว่าหมาในบ้านตัวเองเสียอีก หาที่กำบังฝน หาข้าวหาปลาให้มัน คอยดู คอยเรียกมัน เวลาลูกมันร้องหา ยามมันออกไปข้างนอก ฉันหลงรักเจ้าตัวน้อยๆ นั่นเต็มใจ จนวันหนึ่งอดีตเจ้านายเก่าฉันย้ายมาอยู่แถวๆ บ้านฉัน พร้อมกับครอบครัว ที่ประกอบไปด้วยสองคนสามีภรรยา โชคดีของนังแดงเหลือเกิน ที่อดีตเจ้านายฉันเขาเป็นคนรักหมา ด้วยลักษณะที่ดีของมัน จะด้วยเพราะความที่ฉันใส่ใจมันตลอดด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาพามันเข้าบ้านไปเลี้ยง นังแดงและลูกๆ มีบ้านคุ้มหัว มีอาหารกินทุกมื้อแล้ว ฉันดีใจกับมัน และยังอดไปเยี่ยมเยือนมันทุกวันตามประสาไม่ได้ แล้วลูกๆ ของมันก็ได้รับการแจกจ่ายออกไปให้คนที่มาขอ คนที่รักสัตว์กันจริงๆ ฉันเฝ้ามองพวกมันอย่างมีความสุข อย่างน้อยมันก็มีที่ให้อาศัย ไม่ต้องไปวิ่งหลบฝนอีกแล้ว..... แต่เพียงไม่นาน ปีเศษๆ หลังจากนั้น อดีตเจ้านายฉันได้บ้านหลังใหม่ เขาจึงย้ายจากไป พร้อมกับครอบครัว และพุดเดิ้ลตัวน้อยๆ ของเขา นังแดงโดนทิ้งอีกแล้ว!? เปล่าหรอก อย่างที่ฉันบอก เขาเป็นคนมีน้ำใจ เขาไม่พามันไปอยู่บ้านใหม่ แต่เขาพามันไปอยู่ที่สำนักงานของเรา ตอนนั้นพวกเราอาศัยทำงานอยู่ในโรงยิมประจำจังหวัด ด้วยเพราะเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งใหม่ ยังไม่มีที่ทางของตัวเอง เราจึงต้องปรับปรุงสำนักงานในโรงยิมนั้นเอง นังแดงเลยกลายเป็นยาม เป็นหมาสนามไปโดยปริยาย ฉันก็ยังเป็นคนให้ข้าวน้ำมันเหมือนเดิม นังแดงดูเหมือนจะมีความสุขกับชีวิตแบบนี้ เพราะมีที่ให้วิ่งเล่นได้กว้างเหลือเกิน สนามกีฬาจังหวัดเป็นของมันแล้ว.......
3 ปีที่แล้ว ฉันผันตัวเอง ลาออกจากงานราชการที่ทำอยู่ มาอยู่ที่เมืองบาปแห่งนี้ คราวที่กลับบ้านแต่ละที ฉันมักไปเยี่ยมมันที่โรงยิม รวมถึงต้นปีที่ผ่านมาด้วย ได้พบเจอกับหัวหน้าสำนักงานคนใหม่ ที่มาแทนคนเก่า อดีตเจ้านายฉันย้ายไปที่อื่นไม่นาน เขาก็ไปสู่แดนนิรันดร์ทั้งๆ ที่ยังหนุ่มนัก ฉันคุ้นเคยกับหัวหน้าคนใหม่มานับแต่สมัยที่เรียกเขาว่าพี่ เวลาฉันไปกับพ่อของฉันเยี่ยมเจ้านายเขา วันนั้นนังแดงวิ่งมาหาฉันด้วยความดีใจ ด้วยความคิดถึง ไม่ได้เห็นกันนานนับปี แต่ทำไมสภาพนังแดงที่ฉันเห็นมันโทรมนักเล่า เหมือนไม่ได้อาบน้ำ เห็บหมัดเต็มตัว สังกะตังทั้งตัว เจ้าแดงเอ๋ย ทำไมสภาพเป็นแบบนี้น้อ ฉันไม่เคยคิดเลย ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่ฉันได้เจอนังแดงเป็นวันสุดท้าย ฉันวางใจว่ามันมีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยดีแล้ว แต่ฉันกลับไม่เคยคิดเลยว่า คนที่ดูแลสถานที่นั้นเป็นสัตว์ในร่างคน ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร ทำลงไปได้อย่างไรไม่รู้ ใจคนเราทำไมมันร้ายได้เพียงนี้ ฉันก็ไม่รู้
มนุษย์ที่ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ มีสติปัญญาเหนือสัตว์อื่นๆ ทั้งปวง แต่ทำไมกริยา การกระทำ มันเลวร้ายกว่าสัตว์นักเล่า ฉันรู้ว่าฉันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่ฉันจะเฝ้าคอยสาปแช่งไอ้มนุษย์ใจสัตว์คนนั้นให้ล่มจม!!!
ฉันเชื่อว่าเวรกรรมทุกอย่างมีจริง คนที่ทำแบบนี้ คนที่ไม่ต่างกับฆาตกรแบบนี้ ถึงจะกับชีวิตสัตว์เล็กๆ ที่ไม่เคยทำร้ายใคร ก็นับว่าเป็นคนที่พรากชีวิตจากเจ้าของชีวิตเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ ฉันเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วคงไม่ตายดี....
สู่สุขคตินะแดงนะ ถึงแกจะเป็นแค่หมา เป็นชีวิตเล็กๆ ที่ไม่มีค่าสำหรับใคร แต่แกก็ยังเป็นสัตว์ที่ไม่เคยคิดร้ายใคร เป็นสัตว์ที่รักใครแล้วรักจริง..
Thursday, October 07, 2004
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
3 comments:
อ่ะเฮ่ม รู้สึกผิดเล็กๆแฮะ
เพราะเป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์พอดี
เจ้าตัวมาฟูมฟายเศร้าศร้อย เลยบอกให้ไปบล็อกซะ
(เพราะโดยส่วนตัว เจอเคสแบบนี้ บล็อกแล้วก็จะรู้สึกใจเย็นลง
แถมงานเขียนก็เป็นงานที่ดีอีก -- เพราะกำลังอินสุดๆ
เรียกว่าแปรวิกฤตเป็นโอกาส มีข้อดีถึงสองเด้ง)
แหม แรกๆก็ดีนะ
แต่พอสุดท้ายนี่ มีแช่งมีแช่ง
เอาน่า นังแดงไปสบายแล้วล่ะครับ ฮืมม์
บางทีคนเราก็ผูกพันกับสิ่งมีชีวิตอย่างสุนัข
จนอยากให้ใครอื่นดูแลเอาใจใส่อย่างที่ควรจะเป็น แต่บางครั้ง
โชคก็ไม่เข้าข้างเสมอไป
อย่าว่าแต่สุนัขเลย กระทั่งคนเรานี่แหละ เด็กหิวโหยขาดอาหาร
คนไร้บ้าน ฯลฯ ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนยังมีอีกมากมาย
อืมม์
ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงต้องต่อสู้ดิ้นรนต่อไป
อ่านแล้วเศร้าจัง ที่จริงปกติพี่จะเลี่ยง เรื่องที่ทำให้เกิดความเศร้าในใจทุกชนิด
ไม่ใช่ว่าหนีปัญหาหรืออย่างไรนะ แต่ความจริงของโลกในทางลบ
บางทีเรารู้มันเกิดขึ้นทุกวินาที และมีเรื่องที่ร้ายๆกว่าที่เรารับรู้อีกมาก
พี่เอง มีเรื่องแย่ๆเกี่ยวกับหมาที่บ้านอยู่เหมือนกัน เป็นอะไรในใจที่ทำให้เรา
ชิงชังพ่อแม่ตัวเอง ทุกครั้ง บางทีมันแวบๆเข้ามาตอนที่สมองว่างๆ
และเรื่องของแจงก็จุดเรื่องนี้ขึ้นมาในใจพี่อีกครั้ง
คือ...พี่ไม่อยากเกลียดพ่อแม่ตัวเอง
เค้าเอาหมาตัวนึงไปทิ้งตลาด มันยังเล็ก แค่มันป่วย เค้าคิดว่า มันคงไม่รอด
เค้ารัก ตอนที่มันยังดีๆ แต่นี่ มันวิ่งตามรถพ่อด้วย
(พิมพ์แล้ว น้ำตาจะไหล )เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนพี่เรียนที่ กทม.
กลับมาบ้านถามว่าหมาไปไหน ได้คำตอบแบบนี้มา พี่เลิกพูดกับเค้าไประยะนึง
ระยะหลังๆเค้าก็ดี ไม่ทำแบบนี้อีก แต่พี่คิดว่า เค้าไม่คิดหรอกเรื่องบาปกรรมแบบนี้
เค้าเป็นพวกไร้ใจกับสิ่งเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกหรอก ถ้าแจงจะถามพี่ในบางครั้งว่า
พี่โทรกลับบ้านบ้างไหมและได้ยินว่า พี่ไม่โทร หรือเค้าโทรมาบ้างไหม และพี่ตอบว่าไม่
(พูดเรื่องหมา ไหงเข้ามาเรื่องคน)
พี่เคยอ่านเรื่องของ มอม ทักษะสัมพันธ์ ม สาม
อ่านตอนอยู่ ม หนึ่ง เอาหนังสือเรียนของพี่มาอ่าน
อ่านเสร็จนั่งจมความเศร้าอยู่สามวัน
เรามานั่งคิดนะ
แต่ละคนมีกรรม สัตว์ก็คงไม่เว้น
และตอนนี้ มันก็คงพ้นกรรมของมันไปแล้ว
แต่พวกเราสิ บางทีการเลือกจะพ้นกรรมไปเร็วๆ
มันก็น่าจะดีกว่าการต้องมานั่งทนรับรู้เรื่องตัวเอง
เรื่องคนอื่น เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วย
แต่พระเจ้าก็ให้เราเกิดมาแล้ว
ตอนนี้ก็ต้องทำหน้าที่มนุษย์ที่ดีกันต่อไปหละกัน
พี่ตู่ค่ะ
เฮ้อออ
อ่านแล้วก็เศร้าไปด้วย
มิ้งมีเรื่องแบบนี้บ้าง แต่เป็นกับแมวมากกว่าหมา
เมื่อก่อนเคยเอาข้างไปให้แมวข้างบ้าน
ให้ทุกวัน ๆ แล้ววันหนึ่งเจ้าของบ้านนั้นก็ลุกมาบอกว่าแมวทำให้บ้านเค้าสกปรก
ไม่ให้ให้ข้าว แล้วก็เอาแมวไปปล่อย
ทุกครั้งที่นึกก็จะเศร้า เพราะแค่แมวได้ยินเสียงมิ้งตอนเย็น ๆ แมวก็จะร้องเรียกเสียงดัง
เหมือนบอกให้รู้ว่าอยู่นี่นะ ทุกครั้งไป
โฮโฮ เล่าต่อไปไม่ได้แล้ว น้ำตาท่วม
หลังจากนั้น ดูหนังเรื่องนึง แล้วมีข้อคิดว่า we can't save all, just some
ซึ่งก็เลยกลายเป็นหลักดำเนินสติขึ้นมา
Post a Comment