Sunday, June 20, 2004

+ + + วิตกจริต + + +

ทำไมต้องวิตกจริต !!!!

ไม่อยากจะยอมรับว่า ใครมีความสำคัญ หรือบางทีคิดอีกแง่หนึ่งก็คงจะเป็นความคุ้นเคยกระมัง ปกติฉันไม่คิดนะว่า ฉันเป็นคนใจอ่อน หลายต่อหลายคนก็ว่าฉันร้ายอยู่ร่ำไป ดื้อก็เท่านั้น

แล้วทำไมคืนที่แล้วฉันนอนไม่หลับเล่า

จริงๆ แล้วฉันไม่อยากจะยอมรับว่า ใครคนนี้มีอิทธิพล หรือมีความสำคัญ ในเมื่อทุกวันนี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเราเป็นอะไรกัน อย่าถามเชียวนะ ว่าไอ้ที่คุยกันมาปีกว่าๆ เนี่ย เป็นอะไรกัน คำตอบฉันไม่มีให้หรอก ฉันเองยังสับสนอยู่หลายทีเลยว่าทำไม อะไรกันนักหนา แต่เอาเหอะไม่ได้เดือดร้อนอะไร อย่างที่ฉันบอกกับใครหลายๆ คนว่า ฉันไม่ได้คาดหวังอะไร กับการคุยกับใครสักคน ถึงแม้จะมีบ้างก็ตามที่รู้สึกไหวๆ ไปมั่ง ก็แหม คนนี่นา มันก็ต้องมีมั่งแหละน่า

อ้าวฉัน เขียนอะไรเนี่ย แล้วมันเกี่ยวกับที่ฉันวิตกจริตตรงไหนเล่า

เมื่อคืนนี้นอนไม่ใคร่จะหลับ จะว่าไปแล้ว ฉันเองก็หลับไม่ลงตอนกลางคืนเป็นนิจอยู่แล้ว จะแปลกตรงไหนละถ้าจะบอกว่า ไม่หลับ ก็เปล่านะ ไม่แปลก แต่ที่แปลกน่ะ ใจฉันต่างหากเล่าที่มันแปลก กระวนกระวาย พะว้าพะวัง คิดถึงใครคนที่หายไปหลายวัน หายไปไหนกันนะ ใจก็อดคิดถึงไม่ได้ คงเป็นเพราะความเคยชิน ความคุ้นเคยที่ฉันไม่ได้เป็นคนก่อ แต่เป็นเพราะใครคนนั้นทำให้อดคิดไม่ได้ อดรนทนไม่ไหว เลยยั้งมือ(ยั้งใจหรือเปล่าหนอ)ไม่ได้ missed call ไปหาเขาตามเคย เบอร์แรก ปิดเครื่อง
เอ้ย!!! เป็นไปได้อย่างไร ปิดเครื่อง สำหรับคนที่ไม่เคยปิดเครื่องอย่างเขานี่นะเหรอ อืม งั้นลองใหม่อีกเบอร์ที่เหลือ ปิดหมดทุกเบอร์ ....

นั่นแหละ สาเหตุความวิตกจริตของฉัน ครั้งหนึ่งฉันเคยบอกเขาว่า หากเขาหายไป หรือเป็นอะไรไปขึ้นมา ฉันคงไม่มีโอกาสได้รู้ ฉันฉุกคิดถึงบทสนทนากลางดึกของฉันและเขาไม่ได้ หรือเขาจะเป็นอะไรละเนี่ย ขับรถไปทำงาน รถคว่ำที่ไหนหรือเปล่า(วะ) หรือมีใครดักฉุดไปทำสามีหรือเปล่าเนี่ย ไอ้ความคิดฉันแต่ละอย่างไม่มีดีทั้งนั้นแหละ ....ฉันเฝ้าคิด เฝ้าสงสัย ทั้งยังกังวลจนข่มตาหลับไม่ลง จนแสงแรกของตะวันส่องแสงเข้ามาในห้องเรื่อๆ นั่นแหละ ฉันถึงผล็อยหลับลงได้

ตื่นขึ้นมาตอน 10 โมงกว่าๆ เพราะเสียงโทรศัพท์เพื่อนสาวตัวดี พยายามข่มตาหลับต่อ แต่ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ เที่ยงกว่าๆ ฉันลุกขึ้นมา เพราะจะนอนก็หลับไม่สนิท จะทำไงดีนะเนี่ย ทำธุระส่วนตัวเสร็จ มานั่งมองโทรศัพท์ ลองอีกทีดีไหม เผื่อเขาจะอยู่กับใคร อาจจะไม่สะดวกที่จะเปิดเครื่องตอนกลางคืน กลั้นใจกดหมายเลขแรก ไม่ติด (T_T) เศร้าแล้วฉัน จะทำอย่างไรต่อดี กดอีกเบอร์ ครานี้เป็นเบอร์ของเครือข่ายที่แรงชัดทั่วไทย ครอบคลุมทั่วประเทศ เงียบ ทำไมไม่ดังสักที อ๊ะ!! ฉันอุทานด้วยความดีใจ ติดแล้ว แต่ให้ดังนานกว่า 1 ครั้งก็ไม่กล้า missed call ตามเดิมแล้วกัน

ฉันนั่งมองโทรศัพท์อยู่อีกพัก เริ่มคิดว่าทำไมฉันถึงต้องเกิดอาการวิตกขนาดนั้น ฉันเคยคิดว่าเป็นแค่ความคุ้นเคย ทำไมฉันถึงต้องมีอาการแบบนี้ แต่คิดอีกที ก็คงเป็นเพราะความรู้สึกดีๆ ที่เรามีให้เขา ถึงจะไม่มากมายอะไร แต่ก็คงเพียงพอให้เรากังวัลแบบนี้กระมัง (คิดเข้าข้างตัวเองมากเลยฉัน)

"ปิ๊บ ปิ๊บ" เสียงข้อความเข้า "อยู่ต่างจังหวัด(ภาคอีสาน)"
เอาเหอะนะ ได้รู้ว่าอยู่ไหน ปลอดภัย ฉันก็ยิ้มได้แล้วล่ะ ไม่ตายก็ดีแล้ว






อย่าถามว่าฉันคิดอย่างไร ฉันไม่รู้ว่าคิดอย่างไรเหมือนกัน ฉันมีขีดมีเส้นของตัวเอง ฉันอยากให้มันอยู่แค่นี้ ฉันเองกำลังพยายาม....


3 comments:

ming-ki said...

ชอบตอนจบค่ะ
“อืมม ฉันนั่งยิ้ม ไม่ตายก็ดีแล้วนะ”
ขมวดปมได้น่ารักมากเลย บางทีความรู้สึกที่มีให้ใครสักคน อาจไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนนอกจากรู้ว่าคนที่ห่วงใยนั้นมีความสุข สบายใจ นะคะ

Kaew said...

ก็พี่เป็นคนน่ารัก ก็ห่วงทุกๆคนรอบตัวอยู่แล้ว
นี่คนเคยคุยกันบ่อยๆ ไม่วิตกจริตหรอกค่ะ
=)

Anonymous said...

เป็นห่วงคนอื่นก็เป็นสิ่งที่ดีนะ
แต่อย่าลืมเป็นห่วงตัวเองด้วยนะ

น้ำพริกหมูแดง